วันต้นไม้แห่งชาติ ตรงกับวันวิสาขบูชา (ขึ้น 15 ค่ำเดือน 6) ของทุกปี เป็นวันสำคัญของชาติที่ประชาชนทุกหมู่เหล่า จะได้ร่วมกันปลูกต้นไม้ไว้เป็นที่ระลึกและช่วยเพิ่มพูนทรัพยากรป่าไม้ อันเป็นการบำเพ็ญประโยชน์ให้แก่ประเทศชาติ อีกทางหนึ่งด้วย
อย่างทราบกันดีว่าป่าไม้เป็นสิ่งที่สำคัญต่อการดำรงชีวิต ป่าไม้เป็นแหล่งวัตถุดิบของปัจจัย 4 ตั้งแต่ อาหาร เครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัย และยารักษาโรค ให้ประโยชน์ทางเศรษกิจ อุตสาหกรรม การท่องเที่ยว การชลประทาน บรรเทาอุทกภัย และอื่นๆ อีกมาก
นอกจากนี้ ป่ายังเป็นแหล่งดำรงรักษาความหลากหลายทางชีวภาพ โดยเฉพาะป่าฝนเขตร้อนที่พบได้มากในประเทศไทย ประมาณกันว่าเราสามารถพบสายพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตในโลกประมาณ 40-70% ได้ในป่าฝนเขตร้อน ทั้งป่าฝนเขตร้อนยังเป็นแหล่งค้นพบเภสัชกรรมใหม่ๆ ที่ใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นแหล่งหมุนเวียนออกซิเจนถึง 28% ของออกซิเจนทั้งหมดในโลก
เนื่องจากป่าไม้นับเป็นทรัพยากรธรรมชาติที่มีความสำคัญในด้านสังคมและเศรษฐกิจ เมื่อสังคมมนุษย์ขยายตัวมากขึ้น ความต้องการในด้านบริโภคย่อมขยายตัวตามไปด้วย มีการเปลี่ยนแปลงพื้นที่ป่าไปเพื่อการเกษตรกรรม ที่อยู่อาศัย ฯลฯ แต่เนื่องจากทรัพยากรบางประเภทมีอยู่อย่างจำกัด เช่น ที่ดิน ป่าไม้ สินแร่ ถ่านหิน น้ำมัน ฯลฯ โดยเฉพาะทรัพยากรป่าไม้ เป็นสิ่งที่สามารถนำมาใช้ได้โดยง่าย แต่การปลูกทดแทนต้องรอเวลาและใช้งบประมาณสูงในการดูแลรักษา ทำนุบำรุง ซึ่งหากไม่มีการควบคุมการใช้ทรัพยากรเหล่านี้ พื้นที่ป่าในสังคมนั้นๆ ก็จะเสื่อมโทรมหรือหมดไปในที่สุด
เหตุที่ต้องกำหนดให้มี “วันต้นไม้แห่งชาติ” ก็เพื่อส่งเสริมและกระตุ้นให้คนไทย ตระหนัก และหวงแหนทรัพยากรป่าไม้ อันจะเป็นหนทางนำไปสู่การอนุรักษ์และรู้จักการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติอย่างคุ้มค่า เพื่อเก็บรักษาไว้ให้ลูกหลานต่อไปในอนาคต
การส่งเสริมให้ปลูกต้นไม้ในประเทศไทยมีจุดเริ่มต้นโดยกรมป่าไม้มาตั้งแต่ พ.ศ. 2481 ได้มีการชักชวนข้าราชการและประชาชนให้ร่วมกันปลูกต้นไม้ในวันชาติ คือวันที่ 24 มิถุนายน 2481 ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่มีการปลูกต้นไม้ตามแบบฉบับที่ทำกันในต่างประเทศ ซึ่งเรียกกันว่า Arbor Day